วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ มะพร้าวกะทิ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ มะพร้าวกะทิ


มาทำความรู้จัก กับมะพร้าวกะทิกันก่อน

    ธรรมชาติ ของ “มะพร้าวกะทิ” ทุกสายพันธุ์ เวลาติดผลในหนึ่งทะลาย จะมีผลที่กลายเป็นกะทิร่วมอยู่ด้วย 1 ผล หรือเป็นกะทิ ได้มากที่สุด ไม่เกิน 3 ผล ต่อหนึ่งทะลาย จึงเป็นสาเหตุทำให้ “มะพร้าวกะทิ” มีราคาแพงกว่ามะพร้าวแกงทั่วไปในยุคสมัยก่อน “มะพร้าวกะทิ” จะมีสายพันธุ์เดียวคือ เป็นพันธุ์ที่มีต้นสูง 10 หรือ 15 เมตร ต้องปีนขึ้นไปเก็บลำบากมาก ในยุคนั้นไม่ค่อยได้รับความนิยมปลูกกันด้วย จึงทำให้หารับประทานยากและมีราคาแพงตามที่กล่าวข้างต้น

มะพร้าวกะทิ ทำอะไรทานได้บ้าง?

   ส่วนใหญ่ นิยมเอาเนื้อ “มะพร้าว กะทิ” ไปใส่น้ำแข็งไสผสมน้ำเชื่อมโดยใช้ ช้อนคว้านเป็นชิ้นพอคำ หรือใช้ช้อนตัก กินเฉยๆก็ได้ รสชาติหวานมันอร่อยมาก ปัจจุบันนิยมคว้านใส่ไอศกรีม ทำบัวลอย “มะพร้าวกะทิ” ขายตามร้านอาหาร ภัตตาคารดังๆ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย 

ประโยชน์ มะพร้าวกะทิ
  1. ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดอันตราย หรือ LDL
  2. เพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี หรือ HDL
  3. เสริมสร้างสุขภาพร่างกายและหัวใจให้ดีขึ้น
  4. ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  5. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้แลดูอ่อนกว่าวัย
  6. เนื้อและน้ำมะพร้าวมี วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับร่างกายครบท้วน ไม่ว่าจะเป็น
  • วิตามินซี วิตามินบี กรดอะมิโน ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุโพแทสเซียม ธาตุเหล็ก และ  ยังมีไขมันที่เป็นประโยชน์  ต่อร่างกายอีกด้วย ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมได้ภายใน 5 นาที (น้ำมะพร้าว)

คุณค่าทางโภชนาการของเนื้อมะพร้าวต่อ 100กรัม


พลังงาน 1,480 กิโลแคลอรี่
คาร์โบไฮเดรต 24.23 กรัม
น้ำตาล 6.23 กรัมน้ำมะพร้าวประโยชน์
เส้นใย 9 กรัม
ไขมัน 33.49 กรัม
โปรตีน 3.33 กรัม
วิตามินบี1 0.66 มิลลิกรัม 6%
วิตามินบี2 0.02 มิลลิกรัม 2%
วิตามินบี3 0.54 มิลลิกรัม 4%
วิตามินบี5 1.014 มิลลิกรัม 20%
วิตามินบี6 0.05 มิลลิกรัม 4%
วิตามินซี 3.3 มิลลิกรัม 4%
ธาตุแคลเซียม 14 มิลลิกรัม 1%
ธาตุเหล็ก 2.43 มิลลิกรัม 19%
ธาตุแมกนีเซียม 32 มิลลิกรัม 9%
ธาตุฟอสฟอรัส 113 มิลลิกรัม 16%
ธาตุโพแทสเซียม 356 มิลลิกรัม 8%
ธาตุสังกะสี 1.1 มิลลิกรัม 12%
     % ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)

คุณค่าทางโภชนาการของน้ำมะพร้าวต่อ 100     กรัม
พลังงาน 79 กิโลแคลอรี่
คาร์โบไฮเดรต 3.71 กรัม
น้ำตาล 2.61 กรัม
เส้นใย 1.1 กรัมน้ำมะพร้าวสรรพคุณ
ไขมัน 0.2 กรัม
โปรตีน 0.72 กรัม
วิตามินบี1 0.03 มิลลิกรัม 3%
วิตามินบี2 0.057 มิลลิกรัม 5%
วิตามินบี3 0.08 มิลลิกรัม 1%
วิตามินบี6 0.032 มิลลิกรัม 2%
วิตามินซี 2.4 มิลลิกรัม 3%
ธาตุแคลเซียม 24 มิลลิกรัม 2%
ธาตุเหล็ก 0.29 มิลลิกรัม 2%
ธาตุแมกนีเซียม 25 มิลลิกรัม 7%
ธาตุฟอสฟอรัส 20 มิลลิกรัม 3%
ธาตุโพแทสเซียม 250 มิลลิกรัม 5%
ธาตุสังกะสี 0.1 มิลลิกรัม 1%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)

//อ้างอิงข้อมูลจาก ศูนย์ปฏิบัติการทางการแพทย์ฯ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี 
ขอบคุณแหล่งข้อมูลข้างต้นค่ะ
คราวหน้าจะมาบอกว่ามะพร้าวกะทิลดความอ้วนได้ยังไง...♥♥
ฝากติดตามบล็อกเค้าด้วยน้า ขอบคุณมิตรรักแฟนบล็อกทุกท่าน กราบสวัสดีค้าาาาา
บันทึกนี้เขียนโดย แม่สาวน้าย
เว็บไซด์ : https://www.facebook.com/maprawkathi/?fref=ts
Tel : 0833172795 
















....สั่งซื้อมะพร้าวกะทิแท้ได้ที่https://www.facebook.com/maprawkathi/?fref=ts

วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2559

มะพร้าว ช่วยลดน้ำหนัก






มะพร้าว ช่วยลดน้ำหนัก

         มะพร้าวสามารถช่วยในการลดน้ำหนัก ถูกย่อยได้ง่าย
 เมื่อบริโภคแล้วจะถูกเผาผลาญให้เป็นพลังงานในตับโดยไม่ไปสะสมเป็นไขมัน ดังนั้นผู้บริโภคกะทิจะได้พลังงานทันที ที่บริโภคเข้าไป 
อีกทั้งยังไปกระตุ้นให้ต่อมธัยรอยด์ให้ทำงานได้ดีขึ้น จะช่วยในการเผาผลาญอาหารที่บริโภคเข้าไปพร้อมกันให้เปลี่ยนเป็นพลังงานแทนที่จะไปสะสมเป็นไขมันในร่างกาย จึงเป็นที่มาว่า ทำไมกะทิถึงช่วยเรื่องลดน้ำหนักได้


มะพร้าวช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน 

          สารอาหารในกะทิช่วยต้านไวรัส ป้องกันแบคทีเรีย ป้องกันจุลินทรีย์ ต้านเชื้อรา

ช่วยในการรักษาโรค
         กะทิช่วยบรรเทาอาการของการเจ็บคอและแผล และเป็นทางเลือกสำหรับผู้แพ้แลคโตสหรือแพ้นมจากสัตว์ เครื่องดื่มมังสวิรัตินี้ยังรวมถึงถั่วเหลือง และถั่ว 

ช่วยดูแลผิว
สาระน่ารู้         

   กะทิถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เพื่อผิวชุ่มชื้นและบรรเทาผิวแห้ง กะทิมีประโยชน์มากมายต่อร่างกายของเรา และสามารถลบความเชื่อที่เข้าใจกันผิดๆ ว่าการบริโภคกะทิมากทำให้อ้วน ส่วนมากในอาหารประเภทของหวานที่มีกะทิผสมจะประกอบด้วยน้ำตาลจำนวนมาก อย่างไรก็ตามการบริโภคที่มากเกินพอดี ก็อาจจะส่งผลร้ายต่อร่างกายได้เช่นกัน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ฉะนั้น ควรรับบริโภคแต่พอเหมาะพอดี เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ 


ขอบคุณแหล่งข้อมูลข้างต้นค่ะ
ฝากติดตามบล็อกเค้าด้วยน้า ขอบคุณมิตรรักแฟนบล็อกทุกท่าน กราบสวัสดีค้าาาาา
บันทึกนี้เขียนโดย แม่สาวน้าย...♥♥
เว็บไซด์ : https://www.facebook.com/maprawkathi/?fref=ts
Tel : 0833172795 
















....สั่งซื้อมะพร้าวกะทิแท้ได้ที่https://www.facebook.com/maprawkathi/?fref=ts